วิธีใช้ period หรือ full stop

period หรือ full stop สำหรับ บางคนอาจจะเรียกว่า stop, full point หรือ dot ก็ได้ ในขณะที่คำว่า period นั้นจะเป็นคำที่นิยมใช้ในประเทศสหรัฐ ในขณะที่ในประเทศอังกฤษคำว่า full stop ดังนั้นวันนี้เราจะมาคุยถึงหน้าที่ของเจ้า period 

หน้าที่ของ period
เราสามารถแบ่งหน้าที่ของการใช้ period ได้เป็น 3 ลักษณะดังนี้คือ
1. ใช้เมื่อจบประโยค เช่น
Yesterday, I wrote a letter to a friend.
2. เพื่อระบุว่าเป็นอักษรย่อ เช่น
In the U.K., people work (from) Mon. to Fri.
3. วัตถุประสงค์อื่น เช่น
Results show a 4.5% increase.




ข้อ 1 : Ask not what your country can do for you – but what you can do for your country?
ประโยคข้างต้นนั้นไม่ถูกต้อง เพราะเราไม่ควรใช้เครื่องหมายคำถามในขณะที่ต้องใช้ “.”แทน เนื่องจากประโยคดังกล่าวมิใช่คำถามแต่เป็นคำนาม จึงต้องใช้จุดมาเพื่อจบประโยค
ข้อ 2 : When the new recruit heard that he was accepted to the marines, he was very disappointed. (He had originally hoped to serve in the navy.)
ประโยค ที่หนึ่งเป็นประโยคที่สมบรูณ์แล้วจ่อท้ายด้วย “.” ก็ถูกต้องแล้ว สำหรับประโยคที่สองซึ่งเป็นความคิดต่อเนื่องที่เราเรียกในภาษาอังกฤษว่า “after thought” ต้องเริ่มด้วยวงเล็บแล้วตามด้วยอักษรตัวใหญ่ จากนั้นก็จบประโยคด้วย “.” ภายในวงเล็บ
ข้อ 3 : When the new recruit heard that he was recruited to the marines (He had originally hoped to serve in the navy.), he was very disappointed.
พิจารณาให้ดีก็จะเห็นประโยคนี้แตกต่างจะตัวอย่างที่ให้มาก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ทั้งการใช้ตัวเอชที่เป็นตัวใหญ่ในคำว่า “He” และมี period หลังคำว่า “navy” นั้นทำให้ประโยคไม่ถูกต้อง หากต้องการแก้ประโยคดังกล่าวให้ถูกต้องต้องทำให้ตัวเอชเป็นตัวเล็กและไม่มี “.” ในประโยคที่อยู่ระหว่างวงเล็บ
ข้อ 4 : “You will be recruited to the Marines.” said the recruitment officer.
การวางพีเรียดไว้หลังคำว่า “Marines” ทำให้ประโยคนี้จบไปเลย เราจึงไม่สามารถมีคำว่า said the recruitment officer ดังนั้นต้องเปลี่ยน “.” เป็น “,”
ข้อ 5 : After a career in the army, she went on to work for Time Warner Inc.
ประโยคนี้ถูกต้องไม่ต้องมี “.” อีกอันหลังคำว่า “Inc.” ที่เป็นตัวย่อเมื่อทำการจบประโยค





เครดิต ดร.สิระ สุทธิคำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น